บทนำ
สัญลักษณ์ของประเทศไทยอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆเลยนั้นก็คือ เพลงชาติไทย ซึ่งเพื่อนๆนั้นได้ซึมซับกับเพลงชาติไทยมาตั้งแต่เด็กเล็กๆแล้ว ตั้งแต่เข้าโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ทุกๆเช้าเราต้องเข้าแถวที่โรงเรียนเพื่อนร้องเพลงชาติไทยกัน อีกทั้งได้มีการเปิดวิทยุกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ ทุกวันตอน เวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ซึ่งเพื่อนๆนี้รู้จักกันเป็นอย่างดี ทางเราจึงได้รวบรวมความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเพลงชาติไทยมาไว้ที่นี่ เพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับ เพลงชาติไทย ได้เข้ามาหาความรู้ เพื่อที่โอกาสข้างหน้าจะได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
เนื้อหา
- ประวัติเพลงชาติไทย
- พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) ผู้ประพันธ์ทำนองเพลงชาติไทย
- คำร้อง / เนื้อเพลงชาติไทย (ฉบับปัจจุบัน)
- มาฝึกร้องเพลงชาติไทยกันเถอะ
- เนื้อเพลงชาติไทย ภาษาอังกฤษ พร้อมความหมาย
- โน้ตเพลงชาติไทย
- 5 คลิปเด็กๆน่ารักๆร้องเพลงชาติไทย
- ทำไมถึงต้องเคารพธงชาติเวลา 08.00 น. และ 18.00 น.
สมัยก่อนประเทศไทยปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อมีพระมหากษัตริย์ต่างชาติที่เสด็จเยี่ยมประเทศสยาม เราได้ใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงถวายความเคารพตามธรรมเนียมสากล ซึ่งเพลงดังกล่าวใช้เป็นเพลงชาติของประเทศสยามอย่างเป็นทางการไป แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชมา เป็นระบอบประชาธิปไตย (เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475) ได้เพียงสองสามวัน เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี(สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เสนาบดีกระทรวงธรรมการและต่อมาได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรก ได้แต่งเพลงชาติขึ้นเพื่อปลุกใจให้คนไทยรักชาติ สมัครสมานสามัคคีตลอดจนเกิดเลื่อมใสในรัฐธรรมนูญ ทำนองร้อง ใช้ทำนองเพลงมหาชัย ส่วนบทร้องมีดังนี้
"สยามอยู่คู่ฟ้า อย่าสงสัย
เพราะชาติไทยเป็นไทยไปทุกเมื่อ
ชาวสยามนำสยามเหมือนนำเรือ
ผ่านแห่งเกาะเพราะเพื่อชาติพ้นภัย
เราร่วมใจกันรักสมัครหนุน
วางธรรมนูญสถาปนาพรรษาใหม่
ยกสยามยิ่งยงธำรงชัย
ให้คงไทยตราบสิ้นดินฟ้า"
พวกคณะผู้ก่อการจึงไม่ค่อยพอใจ ต่อมาจึงได้ดำริจะให้มีเพลงชาติแบบสากลที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษจริงๆ นายนาวาตรี หลวงนิเสศกลกิจ ร.น. ( กลาง โรจนเสนา) ได้ติดต่อขอให้พระเจนดุริยางค์ (ปีติ วาทยากร)ช่วยแต่งทำนองเพลงขึ้น เสร็จแล้วขอให้ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์) แต่งคำร้องประกอบ สำเร็จออกเป็นเพลงชาติที่ได้ใช้ร้องกันทั่วไป เนื้อเพลงมีดังนี้
"แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง
ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตแดนสง่า
สืบชาติไทยดึกดำบรรพ์โบราณลงมา
ร่วมรักษาเอกราษฎร์ชนชาติไทย
บางสมัยศัตรูจู่มารบ
ไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่
ตะลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท
สยามสมัยบุราณรอดตลอดมา
อันดินแดนสยามคือว่าเนื้อของชาติไทย
น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า
เอกราชคือกระดูกที่เราบูชา
เราจะสามัคคีร่วมมีใจ
ยึดอำนาจกุมสิทธิ์อิสระเสรี
ใครยำยีเราจะไม่ละให้
เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินไทย
สถาปนาสยามให้เชิดชัยชโย"
ที่มาของทำนองเพลงชาติปัจจุบันนั้น จากบันทึกความทรงจำของพระเจนดุริยางค์ ได้เล่าไว้ว่า ราวปลายปี พ.ศ. 2474 เพื่อนนายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของท่าน คือ หลวงนิเทศกลกิจ (กลาง โรจนเสนา) ได้ขอให้ท่านแต่งเพลงสำหรับชาติขึ้นเพลงหนึ่ง ในลักษณะของเพลงลามาร์แซแยส ซึ่งพระเจนดุริยางค์ได้บอกปฏิเสธ เพราะถือว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเพลงชาติอยู่แล้ว ทั้งการจะให้แต่งเพลงนี้ก็ยังไม่ใช่คำสั่งของทางราชการด้วย แม้ภายหลังหลวงนิเทศกลกิจจะมาติดต่อให้แต่งเพลงนี้อีกหลายครั้งก็ตาม พระเจนดุริยางค์ก็หาทางบ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะท่านสงสัยว่าการขอร้องให้แต่งเพลงนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง ประกอบกับในเวลานั้นก็มีข่าวลือเรื่องการปฏิวัติอย่างหนาหูด้วย หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ผ่านไปได้ประมาณ 5 วันแล้ว หลวงนิเทศกลกิจ ซึ่งพระเจนดุริยางค์รู้ภายหลังว่าเป็น 1 ในสมาชิกคณะราษฎรด้วย ได้กลับมาขอร้องให้ท่านช่วยแต่งเพลงชาติอีกครั้ง โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของคณะผู้ก่อการ ท่านเห็นว่าคราวนี้หมดทางที่จะบ่ายเบี่ยง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานั้นอยู่ในระยะหัวเลี้ยวหัวต่อ จึงขอเวลาในการแต่งเพลงนี้ 7 วัน และแต่งสำเร็จในววันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ตนได้กำหนดนัดหมายวันแต่งเพลงชาติไว้ ขณะที่นั่งบนรถรางสายบางขุนพรหม-ท่าเตียน เพื่อไปปฏิบัติราชการที่สวนมิสกวัน จากนั้นจึงได้เรียบเรียงเสียงประสานสำหรับให้วงดุริยางค์ทหารเรือบรรเลง โดยได้เลือกใช้ทำนองคล้ายคลึงกับเพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอและมอบโน้ตเพลงนี้ให้หลวงนิเทศกลกิจนำไปบรรเลง ในการบรรเลงตนตรีประจำสัปดาห์ที่พระที่นั่งอนันตสมาคมในวันพฤหัสบดีถัดมา พร้อมทั้งกำชับว่าให้ปิดบังชื่อผู้แต่งเพลงเอาไว้ด้วย
คำร้อง / เนื้อเพลงชาติไทย (ฉบับปัจจุบัน)
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ต้องการฝึกหัดเด็กๆ ให้ร้องเพลงชาติไม่ว่าจะเป็นคู่ คู่สามี-ภรรยาชาวต่างชาติ หรือว่าคนไทยที่ราบสูง ต่อไปเราของเสนอเพลงชาติไทย เป็นคาราโอเกะ + ความหมายภาษาอังกฤษเลยครับ
Thailand National Anthem (Phleng Chat Thai) Lyrics & Meaning
pra-ted-thai-ruam-lued-nua-chad-chue-thai
(Thailand embraces to its bosom all people of Thai blood,)
pen-pra-cha-rad-pra-thai-kong-thai-took-suan
(The land of Thailand belongs to the Thai people.)
yu-dam-rong-kong-waai-dai-tang-muan
(It has long maintained its sovereignty.)
duay-thai-luan-mai-rak-sa-mak-ki
(Because Thais have always been united.)
thai-ni-rak-sa-ngop-tae-tung-rob-mai-klad
(The Thai people are peace-loving, but they are not cowards at war,)
ake-ka-rat-ja-mai-hai-krai-kom-kee
(Nor shall they suffer under tyranny.)
sa-la-lurend-took-yard-pen-chard-plee
(All Thais are ready to give every drop of their blood,)
ta-leng-pra-thed-chad-thai-ta-wee-me-chai-chai-yo
(For the nation’s safty, freedom and progress.)
เพลงชาติไทย เพื่อนๆนั้นเคยร้องกันแทบทุกคนนั้นแหละตั้งแต่จำความได้เลยก็ว่าได้ พอเราเข้าโรงเรียนหน่อยก็จะต้องเข้าแถวแล้วร้องเพลงชาติตอนเช้ากัน หรือเพื่อนๆอาจร้องตามโทรทัศน์ตามประสาเด็กๆก็ได้ แต่ก็มีเด็กๆบางส่วนที่ฝึกร้องเพลงชาติไทยของเราและมีพ่อแม่นำกล้องมาอัดวีดีโอไว้สำหรับเก็บเป็นอนุสรณ์ไว้ในวัยเด็ก ซึ่งวันนี้ผมจะคลิปเด็กๆร้องเพลงชาติไทย ที่น่ารักๆ มาให้เพื่อนๆดูแล้วก็สามารถอมยิ้มได้เลยกับความน่ารักของน้องๆ เพื่อนๆสามารถดูได้เลยครับ
คลิปแรก เป็นคลิปของพี่น้องลูกครึ่งชายและหญิง ที่คุณแม่ของเขากำลังฝึกให้ร้องเพลงชาติไทย เด็กๆต้องใจร้องกันเลยละครับ น่ารักมากๆๆ
คลิปต่อมา เพลงชาติไทยร้องโดยน้องมิ้นท์ ซึ่งมีอายุ 4 ขวบ และสามารถร้องเพลงชาติไทยได้อย่างถูกต้องชัดเจนทุกถ้อยคำ น่ารักมากๆ แบบเด็กๆ
คลิปต่อมา เพลงชาติไทยร้อยโดยเด็กๆ โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ซึ่งร้องประสานเสียงกันได้อย่างไพเราะมากๆเลยครับ
คลิปต่อมา เป็นคลิปของเด็กชาวเขาเผ่ามงคนหนึ่งที่พูดไม่ค่อยชัดกำลังยืนหัดร้องเพลงชาติไทย โดยพี่ชายได้ถ่ายเอาไว้ และนำมาแบ่งปันให้เรารับชมกันในความน่ารักแบบเด็กๆ
คลิปต่อมา เพลงชาติไทยร้องโดยน้องธีร์ น่ารักมากๆครับ
คนไทยจะมีการเคารพธงชาติวันละสองครั้ง คือตอน 08.00 น. และ 18.00 น. ซึ่งเป็นหนึ่งในการรณรงค์ใน สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อรัฐนิยม แต่พอสิ้นยุครัฐนิยม ธรรมเนียมดังกล่าวก็เลือนๆไป
ต่อมาเมื่อคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยมี นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลลงมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้กำหนดเวลาชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาเวลา 08.00 น. และเชิญธงลงจากเสาเวลา 18.00 น. และเชิญชวนให้ข้าราชการหยุดยืนเคารพธงชาติในเวลา 08.00 น. เพื่อเป็นตัวอย่างอันดีแก่ประชาชนทั่วไป
โดย ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องระเบียบการชักธงชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. 2519 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2519
หลังจากระเบียบนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีการเปิดรับฟังการเทียบเวลาจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ทุกเวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ซึ่งตามสี่แยกต่าง ๆ จะมีผู้นำเครื่องขยายเสียงไปติดตั้งไว้ และ ผู้ที่ได้ยินได้ฟังเพลงต่างก็จะหยุดยืนแสดงความเคารพธงชาติ จนแม้รถที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ก็จะหยุดแสดงความเคารพเช่นกัน
เข้าใจว่าการออกอากาศเพลงชาติไทยทางโทรทัศน์ตอน 08.00 น. และ 18.00 น. พร้อมกันทุกช่อง ก็คงเริ่มขึ้นในช่วงเวลานี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น